อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 12 วันที่ 20 พ.ย. 55

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 12 วันที่ 20 พ.ย. 55

ชนกนันท์แอบฟังอยู่ที่หน้าห้อง ได้ยินเสียงพูดอังคณาดังลอดออกมา แต่ยังปะติดปะต่อเรื่องราวไม่ได้
“แต่ถ้ามันหนีไม่พ้น แล้วถูกจับได้ อันตรายก็จะมาถึงคุณนะครับ คิดให้ดีๆ” เรืองโรจน์ว่า
“ฉันไม่ชอบแบบนี้เลย ฉันไม่ชอบให้ใครมาบีบคั้นฉัน” อังคณาโกรธกรุ่นๆ แต่พยายามระงับอารมณ์ “เช้านี้ฉันมีธุระ คงต้องเย็นๆ โน่น แล้วฉันจะโทรไปบอกอีกทีก็แล้วกัน”

จากนั้นอังคณาก็กดวางสายไป
ขณะที่ชนกนันท์ยังคงพยายามแอบฟังอยู่ แต่แล้วลูกบิดประตูห้องก็ถูกหมุนชนกนันท์ตกใจนิดๆ รีบหันตัวกลับเดินออกไป แต่ดันชนเข้ากับโต๊ะแจกันที่อยู่หน้าห้องจนแจกันล้ม

อังคณาเปิดประตูออกมาพอดี เห็นชนกนันท์กำลังเก็บแจกันก็สงสัย
“ทำไมมาอยู่ตรงนี้”
“เอ่อ นกเพิ่งออกมาจากห้องนก”
อังคณามองลูกสาวอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้ “เอาไปเก็บด้วย แม่จะรีบออกไปธุระ”
ชนกนันท์รับโทรศัพท์มา กำลังจะเดินไป
อังคณาพูดขึ้นมาลอยๆ “การแอบฟังคนอื่นพูดโทรศัพท์ มันเสียมารยาทมาก รู้ไว้ด้วย”
ชนกนันท์อึกอักที่ถูกแม่จับได้ ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง อังคณาเดินผ่านลงไปข้างล่าง



ไม่นานนักชนะศึกขับรถมาจอดที่อาคารจอดรถของโรงแรมแห่งหนึ่ง
“คุณแม่ไปรอที่ล็อบบี้ก่อนเลยก็แล้วกัน ผมจะเอารถไปจอด”
อังคณาเปิดประตูลงจากรถ ชนะศึกขับรถไปวนหาที่จอด

ขณะที่อังคณาเดินมาตามทาง รู้สึกเหมือนมีคนเดินตามมา อังคณาหยุดกึก หันหลังไปมอง เห็นเพชรแท้ยืนหน้าตาเอาเรื่องมองมาอย่างโกรธแค้น อังคณารีบเดินหนี เพชรแท้เดินตามติด แล้วใช้แขนล็อคคออังคณา ใช้อีกมือหนึ่งปิดปาก อังคณาตกใจพยายามดิ้นรนขัดขืนจนมือเพชรแท้หลุดจากปาก
“ปล่อยฉันนะ แกจะทำอะไรฉัน”
“ก็ทำให้แกสารภาพความจริงไง”
“ความจริงบ้าอะไร”
“ที่แกจ้างคนไปฆ่าพ่อฉัน แกบอกกับแม่ฉันว่าแกเป็นคนทำ ใช่ไหม”
“ถ้าฉันไม่พูด แกจะทำอะไรฉัน”
“ฉันจะทำทุกอย่างจนกว่าแกจะพูด”
เพชรแท้ก้าวเข้าไปดึงแขนอังคณา กำหมัดแน่นยกมือจะต่อย
อังคณาลอยหน้ายั่ว “เหรอ เอาซี ทำเลย อยากทำอะไรก็ทำ เอาให้มีแผลด้วยนะ ฉันจะได้ใช้เป็นหลักฐานลากแกกลับเข้าคุก ในข้อหาข่มขู่พยาน”
เพชรแท้นิ่งคิด แล้วใช้มือมาบีบคออังคณาแทน “ยังคิดว่าตัวเองเก่งอีกเหรอ ฉันจะฆ่าแกให้ตายเมื่อไหร่ก็ได้”
“แกกล้าเหรอ ถ้ากล้าก็ทำเลยซี ถ้าตำรวจรู้ว่าแกทำอะไรฉัน แกเด้งเข้าไปอยู่ในคุกแน่” เพชรแท้จับคออังคณาไว้ แค้นแต่ก็รู้ว่าทำอะไรไม่ได้ อังคณาเยาะเย้ย “คนอย่างแกทำอะไรฉันไม่ได้หรอก พวกแกทั้งบ้านนั่นแหละ มีแต่ฉันที่ทำพวกแกได้ ฉันอยากทำอะไรฉันก็ทำได้”
เพชรแท้เงื้อมือขึ้นมาจะตบ
อังคณาท้า “เอาซี ตบฉันซี เอาเลย โธ่ ไม่แน่จริงนี่ ถ้าจริงก็ตบฉันเลย ตบเลย”
เพชรแท้ทนไม่ไหว ตบหน้าอังคณาอย่างแรง จนอังคณาหงายหลังไป
“อย่าท้านะ แล้วอย่าเอาตำรวจมาข่มขู่ฉัน ต่อให้ฉันต้องกลับเข้าคุกไป ฉันก็พอใจที่จะได้ฆ่าคนที่มันฆ่าพ่อฉัน”
แล้วเพชรแท้ก็บีบคออังคณาจนตาถลน อังคณาจะร้อง แต่หายใจไม่ออก
“ตายซะเถอะ นังใจชั่ว”
อังคณาร้องไม่ออกเสียงกระท่อนกระแท่น “ช่วย...ด้วย...”
เพชรแท้บีบคอแน่นขึ้นอีก อังคณาแกล้งนอนนิ่งไป เพชรแท้ตกใจคิดว่าอังคณาเป็นอะไร จึงปล่อยมือจากคอ อึ้งนิดหนึ่ง อังคณาได้โอกาส ผลักสุดแรง เพชรแท้ไม่ทันตั้งตัว จึงเซล้มไป อังคณารีบวิ่งหนีไปทันที

อังคณาวิ่งหนีออกมาอย่างเร็ว ร้องให้คนช่วย แต่ไม่มีคนอื่นอยู่แถวนั้นเลย
“ช่วยด้วย...ช่วยด้วย”
เพชรแท้วิ่งไล่ตามมาห่างๆ อังคณาไม่ทันระวังสะดุดล้ม เพชรแท้ตามมาทัน
“จะหนีไปไหนนังอังคณา”
เพชรแท้ตรงเข้าไปบีบคออังคณาอีกครั้ง
“แกหนีไปไหนไม่รอดหรอก...ตาย...ตาย”
อีกด้านหนึ่ง ชนะศึกเดินมาใกล้จะถึง ได้ยินเสียงอังคณาร้องขอความช่วยเหลือ
“คุณแม่”
ชนะศึกรีบวิ่งมา เห็นเพชรแท้กำลังบีบคออังคณาอยู่
“ปล่อยแม่ฉันเดี๋ยวนี้”
เพชรแท้ยอมปล่อย อังคณารีบถลาไปหลบหลังชนะศึกอย่างหวาดกลัว
“ชนะ ช่วยแม่ด้วยลูก มันจะฆ่าแม่ มันบอกจะฆ่าแม่ให้ตาย เหมือนกับที่มันฆ่าพ่อลูก”
“ตอแหล”
เพชรแท้ด่า พร้อมกับปรี่เข้าไปจะทำร้ายอังคณา แต่ชนะศึกผลักตัวออกได้ทัน
“แกกล้ามาก แต่คราวนี้แกได้กลับไปติดคุกแน่” ชนะศึกคำราม
“จะเอากูติดคุกงั้นเรอะ ผิดคนแล้ว คนที่ควรจะติดคุกน่ะมันโน่น” เพชรแท้เยาะ พลางชี้หน้าอังคณา “แม่มึงต่างหาก” ชนะศึกงง “รู้ไว้ด้วยนะ แม่มึงนั่นแหละที่เป็นคนจ้างคนไปฆ่าพ่อของมึง”
ชนะศึกตกใจ ไม่เชื่อ แต่ช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน
“แกพูดอะไร” ชนะศึกงงหนัก
อังคณาตัดบทกลบเกลื่อน “อย่าไปสนใจมัน ชนะ มันใส่ความแม่”
เพชรพูดใส่หน้าชนะศึก “เมื่อวานนี้ แม่มึงไปหาแม่กู ทำร้ายแม่กู แล้วก็บอกว่าเป็นคนสั่งฆ่าพ่อ แล้วโยนความผิดให้กู...แม่มึงอยากทำร้ายพ่อ อย่าทำร้ายแม่กู แม่มึงมันบ้า”
อังคณาโกรธจัดแผดเสียงขึ้น “แกน่ะซีบ้า! ฉันเนี่ยนะฆ่าสามีฉันเอง แล้วไปสารภาพกับแม่แก แกบ้าหรือเปล่า ถ้าฉันฆ่าเขาฉันจะไปบอกคนอื่นทำไม”
“เพราะแกอยากให้แม่ฉันเจ็บใจไง เจ็บที่รู้ว่าแกเป็นคนทำร้ายลูกเขา แต่เขากลับทำอะไรแกไม่ได้”
ชนะศึกหันมามองอังคณาท่าทีสับสน
อังคณาปฏิเสธดังลั่น “ชนะ ไม่จริงนะลูก ลูกอย่าไปเชื่อมันนะ ลูกก็รู้ว่าแม่ไม่ได้ทำ”
เพชรแท้พูดกับชนะศึก “ใครจะกล้าคิดแผน หลอกให้กูกับพ่อไปเจอกัน มีคนกี่คนเหรอที่รู้ว่าคุณธานินทร์กับกูเป็นพ่อลูกกัน แล้วจะมีคนกี่คนที่ไม่พอใจเรื่องนี้ อยากให้ทำลายเราทั้งสองคน ยังจะมีใครทำอย่างนั้น ถ้าไม่ใช่แม่ของมึง”
พูดจบเพชรแท้ก็เดินหนีไป ชนะศึกนิ่งอึ้ง
อังคณาแหวใส่ “แกจะไปไหน” รีบบอกชนะศึก “จับตัวมันไว้ซีลูก จับมัน ไม่ได้ยินเหรอ มันใส่ร้ายแม่ เอามันกลับเข้าคุกไป”
ชนะศึกหันมามองอังคณา
“ปล่อยมันไปก่อน...ฆาตกรต้องถูกจัดการแน่ แต่ผมจะจัดการกับมัน ด้วยวิธีของผมเอง”

อังคณามองชนะศึกอย่างคลางแคลงใจ ขณะที่ชนะศึกกลับไม่เหลียวมามองแม่เลย
เย็นนั้น ชนะศึกขับรถพาอังคณากลับบ้าน ตลอดเวลาชนะศึกได้แต่คิดหนักอยู่ภายในใจ ส่วนอังคณาที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ ก็เริ่มวิตกถึงท่าทีของลูกชาย ไม่รู้ว่าชนะศึกกำลังจะสงสัยเธอหรือเปล่า

“ชนะ”
“ครับ”
“ลูกคงไม่เชื่อมันนะ ที่มันพูด มันต้องการจะใส่ความแม่”
“ทำไมคุณแม่คิดว่าผมจะเชื่อล่ะครับ” ชนะศึกหันมามองอังคณา นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง “ผมไม่เชื่อหรอก”
แล้วชนะศึกก็หันไปขับรถ ไม่พูดอะไรอีก อังคณายิ่งเครียด

พรรณีกำลังนั่งทำงานเย็บผ้าอยู่ เพชรแท้เดินปึงปังเข้ามา พรรณีเงยหน้าขึ้นมอง
“มันไม่ยอมพูด”
พรรณีถอนใจ “ใครมันจะยอม” น้ำเสียงเริ่มระแวง “แต่เพชรไม่ได้ไปทำอะไรเขาใช่ไหม”
“ก็ลงมือไปนิดหน่อย กะจะขู่ให้มันพูดอะไรบ้าง แต่ยังไม่ทันจะได้เรื่อง ไอ้ชนะศึกมันดันโผล่เข้ามาเสียก่อน เพชรก็เลยบอกมันว่า แม่มันนั่นแหละที่ฆ่าพ่อ” เพชรแท้บอก
“แล้วคุณชนะศึกเขาเชื่อไหม”
“ไม่รู้สิแม่...มันคงยาก ที่ลูกจะเชื่อว่าแม่ของตัวเองฆ่าพ่อ”
“แต่แม่ว่า เขาก็คงต้องคิดอะไรบ้างเหมือนกัน” พรรณีออกความเห็น
“แม่รู้ได้ยังไง”
“ถ้าเขาไม่เชื่อเลย เขาคงแจ้งตำรวจให้จัดการเพชรไปแล้ว ที่ทำร้ายแม่เขา แต่นี่เขากลับปล่อยเพชรมา คุณชนะศึกเขาต้องคิดอะไรบางอย่างอยู่แน่ๆ”
เพชรแท้ไม่ค่อยอยากจะหวังมากนัก

พระจันทร์ดวงกลมโตลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า เหนือบ้านเลิศชัยวัฒน์ค่ำคืนนี้ ชนะศึกเดินวนไปวนมาอยู่หน้าบ้าน ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เพชรแท้พูดกับตัวเอง ระหว่างนั้นศักดาเดินผ่านมา เห็นชนะศึกหน้าเครียดอยู่ เป็นห่วงจึงเดินเข้าไปหา
“คุณชนะ...ครับ”
“มีอะไร ศักดา”
“อย่าหาว่าผมละลาบละล้วงเลยนะครับ คุณชนะ...เชื่อเรื่องที่นายเพชรแท้พูดไหมครับ”
ชนะศึกนิ่งไม่ตอบ แต่ในหัวยังคิดอยู่
“ผมว่า...คุณผู้หญิงไม่มีวันทำแบบนั้นหรอกครับ คุณผู้หญิงรักคุณท่านมาก แล้วทางฝ่ายบ้านคุณพรรณี เออ...ผมก็ว่าทางนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรอกครับ” ศักดาว่า
“ผมก็ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณแม่เป็นคนทำ แต่ไอ้เพชรแท้มันยืนยันหนักแน่นว่าคุณแม่เป็นคนวางแผนทั้งหมด”
ศักดาสงสัย “แล้วคุณผู้หญิงจะทำไปทำไมละครับ”
“คุณแม่เป็นคนที่มีแต่ความโกรธแค้น อาฆาตฝังใจ...เขาอาจจะทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิดก็ได้” ชนะศึกบอก
“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่นะครับ” ศักดามองซ้าย ขวา พูดเสียงเบาลง “ถ้าเกิดคุณผู้หญิงเป็นคนทำขึ้นมาจริงๆ คุณชนะจะทำยังไงครับ”
ชนะศึกนิ่งไปตอบ คิดไม่ตกเหมือนกันว่าถ้ามันเป็นจริง เขาจะทำอย่างไร

ยักษ์กับเมียกำลังวุ่นวายใจอยู่ในบ้าน เมียยักษ์แอบคอยเปิดหน้าต่างไปดู ชะเง้อชะแง้
“สี่ทุ่มกว่าแล้ว ไม่เห็นมีใครมาเลยพี่ยักษ์”
“รึว่ามันจะเบี้ยววะ”
เมียยักษ์บ่นอุบอิบ “ฉันบอกแล้ว ไอ้พวกไฮโซไฮซ้อมันคบไม่ได้ เนี่ยถึงเวลาลำบากขึ้นมา มันก็เอาตัวรอด...มันเป็นถึงเมียเศรษฐีใหญ่ ตำรวจที่ไหนจะกล้าแตะมัน มาตามจับแต่คนจนๆ อยู่นี่ พี่เลยซวยอยู่คนเดียว”
“อีนี่ มึงหุบปากได้ไหม กูยิ่งกลุ้ม ๆ อยู่...ก็ไอ้เรืองโรจน์มันว่าจะเอาเงินมาให้ คราวที่แล้วมันก็จ่ายง่ายๆ คราวนี้มันคงไม่เบี้ยวหรอกน่า”
เสียงเคาะประตูดังก๊อกๆ สองผัวเมียหันไปดู
“นั่น มึงไปดูสิ ใครมา”
เมียยักษ์เปิดประตู ปรากฏว่าเป็นตำรวจที่กรูกันเข้ามา สารวัตรเป็นคนนำ
“หยุดนะนายยักษ์ แกถูกจับแล้ว”
ยักษ์ตกใจหันหลังจะวิ่งหนีไปทางหลังบ้าน ตำรวจอีกกลุ่มหนึ่งที่ซุ่มอยู่ก็แสดงออกมาขวาง ยักษ์ตกใจ ไม่รู้จะทำยังไง ถูกตำรวจล็อคตัวไว้ได้
“จับผมเรื่องอะไร ผมทำอะไรผิด”
ยักษ์พยายามดิ้นรน แต่ก็ไม่มีประโยชน์ เมียยักษ์หน้าเสีย

เช้าวันต่อมา ชนะศึก ชนกนันท์ และอังคณานั่งกินอาหารเช้ากันอยู่ในห้องอาหาร ต่างกินไปเงียบ ๆ
ชนกนันท์กับชนะศึกผลัดกันลอบมองอังคณา
“วันนี้ยัยนกจะไปไหว้คุณพ่อที่วัด คุณแม่ไปไหมครับ”
“ไม่ แม่มีธุระ”
“ธุระอะไรคะ” ชนกนันท์ถาม
อังคณาชักสีหน้าตวัดเสียง “แม่ต้องบอกเราทุกเรื่องหรือไง”
ชนกนันท์อึ้งไป ทุกคนอึดอัด เสียงโทรศัพท์สายในบ้านดัง
“คุณแม่ครับ ผมไปรับเอง”
ชนะศึกลุกเดินออกจากโต๊ะไปรับาย
“ฮัลโหล” นิ่งฟัง “คุณอาสวัสดิ์เหรอครับ...เรื่องอะไรนะครับ”
พอรู้ว่าเป็นผู้การสวัสดิ์ ทุกคนมองชนะศึกอย่างตื่นเต้น ชนะคุยสายอยู่สักครู่หนึ่ง
“ครับ...ขอบคุณมากครับ”
ชนะศึกวางสาย หน้าตาเป็นกังวล ไม่อยากเชื่อต่อสิ่งที่ได้ยิน ชนะศึกเดินคิดๆ กลับเข้ามาที่โต๊ะอาหาร
“มีอะไรคะ พี่ชนะ”
“อาสวัสดิ์มีข่าวใหญ่มาบอก เกี่ยวกับคดีคุณพ่อ”
อังคณาสนใจ “ข่าวอะไร”
ชนะศึกมองหน้าอังคณา “ทางตำรวจเขาจับฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าพ่อได้แล้ว”
อังคณาตกใจ “หา” อาการเริ่มลนลาน “นี่มันหมายความว่ายังไง ก็เขาจับไอ้เพชรแท้ได้ตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ มันนั่นแหละฆาตกรตัวจริง”
ชนะศึกบอกเสียงจริงจัง “ไม่ใช่ครับ เพชรแท้ไม่ใช่คนฆ่าพ่อ”
ชนกนันท์อึ้ง “เป็นไปได้ยังไง”
“จากการพิสูจน์หลักฐานเพิ่มเติม ตำรวจเขาคิดว่าคนลงมือต้องเป็นมือปืนรับจ้าง และนักวางเพลิงมืออาชีพ เขาสืบไปสืบมาก็ได้ตัวมันมา” ชนะศึก
“มันเป็นใคร แล้วมันมายิงพ่อเราทำไม” ชนกนันท์ซัก
“มันชื่อยักษ์ ชื่นจิตร มันเป็นคนลงมือเผาบ้านแล้วก็ยิงพ่อเรา เพราะมีคนจ้างให้มันทำ ตอนนี้ตำรวจเขากำลังเอาตัวมันไปสอบปากคำ เขาจะทำให้มันรับสารภาพออกมาให้ได้ว่าใครคือตัวบงการ จ้างมันฆ่าพ่อเรา”
อังคณาตกใจลนลาน มือไม้สั่นทำแก้วน้ำหลุดมือแตกกระจาย จนแก้วกระเด็นบาดมือ
ชนะศึกฉงน “คุณแม่ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“เปล่า แม่ไม่เป็นอะไร”

อังคณารีบลุกหนีจากโต๊ะท่าทีมีพิรุธก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบน ชนกนันท์ และชนะศึกมองตามอย่างแปลกใจ
อังคณาลนลานเข้ามาในห้อง โทรศัพท์หาเรืองโรจน์ทันที

“มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง”
เรืองโรจน์นั่งอยู่ในรถของตน ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถสถานีตำรวจ
“ก็ผมบอกคุณแล้ว คุณไม่รีบเอาเงินไปให้มันเอง”
“เป็นความผิดของฉันงั้นเหรอ มันต่างหากที่เซ่อซ่าให้ตำรวจจับได้”
“ใจเย็นๆ ครับ ผมให้ทนายเข้าไปคุยกับมันแล้ว”
“เหรอ แล้วมันว่ายังไง”
“มันตกลงจะยอมรับผิดทั้งหมดคนเดียว ไม่ซัดทอดมาถึงคุณหรือผม” เรืองโรจน์หยุดนิดหนึ่ง “แลกกับค่าตอบแทนจำนวนหนึ่ง”
“เท่าไหร่ บอกมาเลย ฉันจะจ่ายให้มัน”
เรืองโรจน์เน้นคำ “สิบล้านบาท”
อังคณาแหวใส่ “จะบ้าเหรอ”
“มันรู้ว่าคนจ้างมีปัญญาจ่าย ราคานี้ไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับความปลอดภัยของคุณ” เรืองโรจน์หยุดไปอีกหน่อย “ผมว่าเราไม่มีทางเลือก”
“เงินตั้งเยอะขนาดนั้น ตอนนี้ฉันหาให้ไม่ทัน”
“มีเท่าไหร่ก็เอามาก่อนแล้วกัน”
อังคณานิ่งคิด “ตอนนี้ฉันมีแค่ล้านนึง”
“ได้ แต่คุณต้องรับปากนะว่าจะเอาที่เหลือมาให้มัน มิเช่นนั้นผมไม่รับรองความปลอดภัยของคุณ”
อังคณานึกกลัว “ถ้าฉันจ่ายให้มันแล้ว เรื่องต้องจบนะ รับปากฉันได้ไหม”
“ผมบอกมันแล้วครับ”
“ฉันจะเอาเงินไปให้เธอ เจอกันที่ไหนดี...” อังคณานิ่งฟัง “ได้ อีกซักชั่วโมงนึง”
อังคณากดวางสาย เรืองโรจน์ยิ้มมีพิรุธ
อังคณาเดินไปคว้ากระเป๋าใบหนึ่งออกจากตู้เสื้อผ้า พลางหันไปมองทางประตูห้อง พบว่าประตูห้องเปิดอยู่ และต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเจอชนกนันท์ยืนอยู่
อังคณาตวาด “มาทำอะไร”
ชนกนันท์ยื่นของในมือให้ดู “นกเอายากับพลาสเตอร์มาให้ ทำแผลหน่อยนะคะคุณแม่”
อังคณานึกได้ ยกมือตัวเองขึ้นมาดู เห็นรอยแก้วบาดยังมีเลือดซึม รีบตั้งสติข่มอารมณ์
“แม่ไม่เป็นไร
“แต่แม่คะ...เลือดยังไหลอยู่เลย” ชนกนันท์ยังเป็นห่วงไม่หาย
“ก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร” อังคณากระชากพลาสเตอร์มา ต่อว่าเอา “ทำไมวุ่นวายอย่างนี้นะเรา”
อังคณารีบปิดประตูห้องทันที เดินมาที่ตู้เซฟเปิดหยิบเงินออกมาหนึ่งล้าน แล้วเอาใส่ในกระเป๋าที่ถือมาอย่างลนลาน

เช้าวันต่อมาอังคณาเดินลงบันไดมา ในมือถือกระเป๋าเงินมาด้วย อังคณาชะงักนิดหนึ่ง เมื่อเห็นชนะศึกอยู่ในห้องโถง อังคณาแอบกระเป๋าไว้ด้านหลัง
“ผมว่าจะไปคุยกับตำรวจหน่อย อยู่ดีๆ ทำไมคนที่ฆ่าพ่อถึงเปลี่ยนจากไอ้เพชร มากลายเป็นคนอื่นไปได้ แม่จะไปกับผมไหม”
“เอ่อ คงไม่ล่ะ แม่มีธุระ”
ชนะศึกแปลกใจ “แม่ครับ ไอ้คนๆ นั้น มันเป็นคนฆ่าพ่อนะครับ แม่ดูเหมือนไม่สนใจเลย”
“ทำไมจะไม่สนใจ แต่แม่จะไปทำอะไรได้ มันต้องปล่อยให้ตำรวจเขาจัดการอยู่แล้ว”
อังคณาจะเดินไป ชนะศึกมองเห็นกระเป๋าใบใหญ่ที่อังคณาถือไว้ด้านหลัง
“แล้วนี่แม่จะไปไหนครับ”
อังคณา ไปทำผม
อังคณาไม่พูดอะไรอีก เดินออกจากบ้านไปเลย ชนะศึกยิ่งแปลกใจ เดินตามไป อีกมุมหนึ่ง ชนกนันท์มองตาม สงสัยเหมือนกัน

ตอนสายอังคณานั่งอยู่ที่เบาะหลัง โดยมีศักดาเป็นคนขับรถ อังคณาวางกระเป๋าเงินไว้ข้างตัว จับไว้แน่น หน้าตากังวล ชนะศึกขับตามรถของอังคณามา

รถอังคณาเลี้ยวเข้าไปในห้างสรรพสินค้า รถชนะศึกเลี้ยวตามเข้าไป แล้วขับไปเรื่อย ๆ ตาก็มองหารถของอังคณา
ชนะศึกวนขึ้นมาได้อีก 2-3 ชั้น ก็เห็นรถของอังคณาจอดอยู่ ศักดากำลังเช็ดรถ ชนะศึกขับเลยรถของอังคณาไป ศักดาไม่ทันเห็น พอขึ้นไปได้อีกชั้นก็มีที่จอด ชนะศึกถอยรถเข้าจอด

ชนะศึกเข้าไปในร้านทำผม ซึ่งมีลูกค้าอยู่พอสมควร เจ้าของร้านเจ้าได้รีบเข้ามาต้อนรับ
“คุณชนะศึก สวัสดีค่ะ”
ชนะศึกมองไปรอบๆ ไม่เห็นอังคณาอยู่ในนั้น “คุณแม่ล่ะ”
เจ้าของร้านแปลกใจ “คุณอังคณา? ยังไม่มานี่คะ วันนี้ไม่ได้นัดเอาไว้ค่ะ”
ชนะศึกแปลกใจ เดินออกจากร้านไปท่าทีเป็นกังวล

ชนะศึกเคว้งคว้าง ไม่รู้จะไปทางไหน ตัดสินใจเดินไปดูตามร้านต่างๆ ภายในห้างหลายแห่ง ก็ไม่พบอังคณา
ต่อมาชนะศึกเดินมองหาอังคณามาเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านเสื้อแห่งหนึ่ง ชนะศึกมองเข้าไปในร้านเห็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวคล้ายอังคณาจึงรีบเดินเข้าไปหา
“คุณแม่ครับ...คุณแม่”
ชนะศึกจับหญิงคนนั้นหันหน้ามา ปรากฏว่าไม่ใช่อังคณา
“ขอโทษครับ”
ชนะศึกผิดหวัง กลับออกมาที่อาคารจอดรถ แล้วมองไปที่ๆ รถอังคณาจอดอยู่เมื่อครู่ ปรากฏว่ารถของอังคณาไม่ได้อยู่ที่นั้นแล้ว ชนะศึกหงุดหงิด คราวนี้เขาพลัดกับแม่จริง ๆ
จากนั้นชนะศึกจึงเดินกลับไปที่รถของตน เปิดประตู แล้วเข้าไปนั่ง ติดเครื่อง กำลังจะเคลื่อนรถออก แต่แล้วเขาก็ต้องชะงัก เพราะไม่ห่างจากรถที่เขาจอดนัก เรืองโรจน์เดินเข้ามา พร้อมกับหนีบกระเป๋าใบที่เขาเห็นแม่ถือออกจากบ้านมาด้วย เรืองโรจน์เดินตรงไปที่รถของตนเอง เข้าไปนั่งติดเครื่อง แล้วขับออกไป
ชนะศึกรู้แล้วว่าแม่เอากระเป๋าใบนั้นมาให้เรืองโรจน์ แต่ไม่รู้ว่าในนั้นมีอะไร ชนะศึกขับตามเรืองโรจน์ไป รถแล่นลงมาได้อีกชั้นหนึ่ง ก็มีรถอีกคันหนึ่งกำลังถอยจอดยักแย่ยักยัน รถของเรืองโรจน์ออกจากอาคารจอดรถไปแล้ว

ชนะศึกรีบลงมาจากรถ วิ่งตามรถของเรืองโรจน์ไป แต่ไม่มีวี่แววรถของเรืองโรจน์แล้ว ชนะศึกได้แต่หงุดหงิด
แสงแดดช่วงเวลาตอนกลางวัน สาดลำแสงส่องเป็นประกายเงางดงามทั่วบริเวณวัด ขณะที่เพชรแท้นั่งคุกเข่าพนมมืออยู่กลางศาลาการเปรียญ ต่อหน้าพระสงฆ์รูปหนึ่งซึ่งกำลังเจริญพระพุทธมนต์ และทำพิธีรดน้ำมนต์สะเดาะห์เคราะห์ให้เพชรแท้ เพื่อความเป็นสิริมงคล

“หมดทุกข์หมดโศก หมดโรคหมดภัย มีแต่ความสุขความเจริญ มีเงินมีทองนะโยม...”
เสียงสวดมนต์ฟังดูเข้มขลัง ขณะที่น้ำมนต์สาดซัดลงมาที่ศีรษะ และลำตัวของเพชรแท้จนเปียกชุ่ม
เพชรแท้พนมมือ ก้มหน้านิ่งรับน้ำมนต์ สัมผัสรับรู้ถึงความขลัง และพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนตัวเองถูกชุบชีวิตให้กลายเป็นคนใหม่

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 12 วันที่ 20 พ.ย. 55

เค้าโครงเรื่อง : ทีมเอ็กแซ็กท์
บทโทรทัศน์ : กษิดินทร์ แสงวงษ์ , ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
กำกับการแสดง : นิพนธ์ ผิวเณร
อำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร, ถกลเกียรติ วีรวรรณ
แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ออกอากาศ : จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 5
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรกอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th